ปัจจุบันของ10 ทีมดังในอดีตที่ดำดิ่งสู่ลีกล่าง

ปัจจุบันของ10 ทีมดังในอดีตที่ดำดิ่งสู่ลีกล่างมายาวนานเป็นอย่างไร? ตอนที่12

เชียร์บอลปี 2003 ทีมชาวเกาะทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศโกปา เดล เรย์ ด้วยการผ่านคู่แข่งสุดแกร่งอย่าง เรอัล มาดริด และ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ก่อนจะถล่มอีกม้ามืดอย่าง เรเครอาติโบ อูเอลบา ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์ใหญ่รายการแรกของสโมสรได้สำเร็จ

แต่เชียร์บอลแชมป์ดังกล่าวก็นำมาซึ่งจุดเปลี่ยน มายอร์ก้าเริ่มรั้งเหล่าสตาร์จากทีมชุดนั้นไม่ไหว ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของเงินๆ ทองๆ หรือเรื่องของความทะเยอทะยาน ท้ายที่สุดจากทีมที่มีสถิติการเล่นในบ้านที่เเข็งแกร่งสุดๆ จนทำให้รอดตกชั้นอยู่เสมอก็ไม่แข็งแกร่งเหมือนเก่า การที่พวกเขาใช้นักเตะดาวรุ่งโนเนมและนักเตะหมดสภาพที่เหลือแต่ชื่อลงสนามเพื่อประคองรายจ่ายของทีม ทำให้มายอร์ก้าตกชั้นสู่ลีกเซกุนด้าไปในปี 2013 แถมทีมยังทรุดหนักกว่าเดิมจนต้องหนีตกชั้นอย่างต่อเนื่อง

และเชียร์บอลในที่สุดฝันร้ายก็กลับมาเยือนพวกเขาอีกครั้ง เมื่อมายอร์ก้าร่วงตกชั้นสู่ลีกเซกุนด้า เบ ในฤดูกาลนี้ แต่ก็เหมือนปลุกให้ทีมตื่นจากฝันมาเผชิญกับความจริงเมื่อทีมทำผลงานได้ดีอีกครั้ง ซึ่งพวกเขายังต้องทำงานหนักต่อไปเพื่อที่ชื่อ “ชาวเกาะ” จะไม่เป็นเพียงกะทิกล่องของแฟนบอลยุค 4.0

ปัจจุบันของ10 ทีมดังในอดีตที่ดำดิ่งสู่ลีกล่าง

ปัจจุบันของ10 ทีมดังในอดีตที่ดำดิ่งสู่ลีกล่างมายาวนานเป็นอย่างไร? 

โคเวนทรี

เชียร์บอลสโมสรที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “ช้างกระทืบโรง” นี้เป็นอีกทีมที่แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็สร้างความอึดอัดให้ทีมใหญ่ได้เสมอ

ทีมที่มีฉายาอย่างเป็นทางการว่า "เดอะ สกาย บลูส์" เคยสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เอฟเอคัพในปี 1987 หลังคว่ำ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แบบสุดมันในช่วงต่อเวลา จนทีมมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในยุคเชียร์บอล 1990 ด้วยขุนพลอย่าง สตีฟ อ๊อกริโซวิช, ฟิล บ๊าบบ์, ดาร์เรน ฮัคเคอร์บี้, โนเอล วีแลน, ดิออน ดับลิน, และ แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์

ทว่าโคเวนทรีก็เป็นอีกทีมที่ตกเป็นเหยื่อของการบริหารงานที่ผิดพลาด การซื้อนักเตะค่าตัวเเพงอย่าง ร็อบบี้ คีน เพื่อหวังยกระดับสโมสรกลับให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปอย่างที่หวัง จนเกิดปัญหาทางการเงินและต้องตกชั้นสู่ดิวิชั่น 1 อย่างเจ็บปวดเมื่อปี 2001

ชีวิตเชียร์บอลในลีกรองเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ยิ่งเล่นก็ยิ่งแย่ พวกเขาต้องใช้นักเตะดาวรุ่งและเสือเฒ่าหมดยุคประคองทีมไปแบบไร้ทางเลือกจากปัญหาการเงินดำเนินไปอย่างที่ต่อเนื่อง จนทีมช้างกระทืบโรงตกชั้นอีกครั้งในปี 2012 ซึ่งฝันร้ายยังคงตามติด ฤดูกาล 2013/14 พวกเขาต้องลงเล่นในลีกวันด้วยการโดนตัด 10 คะแนนจากปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ แถมยังต้องย้ายไปเช่าสนามของ นอร์ธแฮมป์ตัน อีกต่างหาก

ปัจจุบันของ10 ทีมดังในอดีตที่ดำดิ่งสู่ลีกล่างมายาวนานเป็นอย่างไร? 

แม้จะตกต่ำถึงขีดสุดชนิดที่แฟนบอลก็คาดไม่ถึง แต่ยังมีไฮไลท์เล็กๆ สำหรับสโมสรเเห่งนี้ เมื่ออดีตโกลเด้นบอยของวงการฟุตบอลอังกฤษอย่าง โจ โคล เลือกย้ายมาเล่นให้ โคเวนทรี แบบยืมตัว แต่ถึงอย่างนั้นผลงานโดยรวมของทีมก็ยังแย่อยู่ดี

ปัจจุบันเชียร์บอลช้างกระทืบโรงกลายเป็นโรงกลายเป็นฝ่ายโดนกระทืบเองเสียมากกว่า เพราะโคเวนทรีเพิ่งตกชั้นสู่ลีกทูในฤดูกาลนี้ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ได้กลับมาเล่นใน ริโค่ห์ อารีน่า บ้านของพวกเขา ไม่ต้องระหกระเหินไปเล่นยังเมืองอื่น แถมผลงานช่วงนี้ยังพอใช้ได้จนทีมมีโอกาสลืมตาอ้าปากอีกครั้งในอนาคตอันใกล้

เรอัล มายอร์ก้า

มายอร์ก้า ได้ฉายา "ชาวเกาะ" ตามสภาพภูมิศาสตร์ของเมืองที่อยู่บนเกาะพร้อมบรรยากาศที่สวยงาม และในช่วงเวลาหนึ่งฟุตบอลก็ทำให้เกาะแห่งนี้โด่งดังไปทั่วโลกเช่นกัน

ช่วงยุคเชียร์บอล 2000 ต้นๆ มายอร์ก้ามีนักเตะฝีเท้าฉกาจหลายรายไม่ว่าจะเป็น เลโอ ฟรังโก้, มิเกล อังเคล นาดาล, อัลเบิร์ต ริเอร่า, อาเรียล อิบากาซ่า, วอลเตอร์ ปานดิอานี่ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ซามูเอล เอโต้ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในดาวยิงที่ดีที่สุดในโลกหลังจากนั้น

หมดเวลาคอนเต้?

หมดเวลาคอนเต้? : 10 กุนซือที่มีโอกาสคุมทัพสิงห์บลูส์ฤดูกาลหน้า ตอนที่ 7

แชมป์ยูฟ่า เชียร์บอลแชมเปี้ยนส์ ลีก : 2002/03, 2006/07, แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : 2003, 2007, แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ : 2007) เชลซี (แชมป์พรีเมียร์ลีก : 2009/10, แชมป์เอฟเอ คัพ : 2009/10, แชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ : 2009)

ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง (แชมป์ลีก เอิง : 2012/13) เรอัล มาดริด (แชมป์โกปา เดล เรย์ : 2013/14, แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2013/14, แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : 2014, แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ : 2014) บาเยิร์น มิวนิค (แชมป์บุนเดสลีกา : 2016/17, แชมป์ซูเปอร์ คัพ เยอรมัน : 2016, 2017)

กุนซือผู้ร่ำรวยความสำเร็จ แม้ด้วยความนิ่งแต่เต็มไปด้วยอิทธิพลต่อทีมเชียร์บอล อันเชล็อตติเคยโดน "สิงห์บลูส์" ปลดจากตำแหน่งมาแล้ว และตอนนี้ยังว่างงาน นับตั้งแต่ถูก "เสือใต้" กระทำแบบเดียวกันนั้น เมื่อกันยายนปีที่แล้ว

กุนซืออารมณ์ดี ซึ่งเป็นสุภาพบุรุษชาวอิตาเลียน มีประสบการณ์อันโชกโชน ด้วยงานคุมทีมใหญ่ทั่วยุโรป จนดูเหมือนว่าเขาเกิดมาเพื่อรับงานช้างโดยเฉพาะ "อันเช่" มีทักษะในการแบกรับความกดดันมหาศาล เขาเป็นคนที่ไม่มีอีโก้ใดๆ ซึ่งทำให้ทีมของเขามีบรรยากาศที่ดีเสมอ ไม่ใช่แค่กับลูกทีมเท่านั้น แฟนบอลรวมทั้งสื่อมวลชนต่างชื่นชอบอันเชล็อตติทั้งนั้น จนอาจบอกได้ว่า แทบหาใครที่เกลียดเขาไม่ได้เลย

สิ่งที่แตกต่างจากคอนเต้โดยสิ้นเชิง อดีตนายใหญ่เชียร์บอลจอมเก๋าผู้คุ้นเคยกับเก้าอี้ตัวร้อนนี้อยู่แล้ว พร้อมพิจารณารับงาน โดยไม่ต้องคำนึงถึงการเซ็นสัญญาคว้านักเตะใหม่ อันเชล็อตติปั้นเด็กเก่งอยู่แล้ว แม้สโมสรพร้อมเทงบประมาณแบบหนักหน่วงก็ตาม

หมดเวลาคอนเต้? : 10 กุนซือที่มีโอกาสคุมทัพสิงห์บลูส์ฤดูกาลหน้า ตอนที่ 8

ด้วยเปอร์เซนต์คุมทีมเชียร์บอลชนะในพรีเมียร์ลีกของอันเชล็อตติที่เป็นรองแค่ โชเซ่ มูรินโญ่ และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มันรับประกันคุณภาพในตัวอยู่แล้ว หลังโดนไล่ออกในปี 2011 อย่างไรก็ดี ดูเหมือนเชลซีต้องพยายามมากหน่อย หากต้องการอันเชล็อตติกลับมา เนื่องจากทีมชาติอิตาลีกำลังเดินหน้าเพื่อเจรจากับกุนซือจอมเก๋าอยู่ในตอนนี้

เลโอนาร์โด้ ชาร์ดิม (43 ปี, โปรตุเกส) สังกัดปัจจุบัน : โมนาโก (สัญญาสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2020)

แชมป์ในฐานะผู้จัดการทีม : กามาช่า (มาไดร่า คัพ 2003/04) ไบรา-มาร์ (ดิวิชั่น 1 : 2009/10) โอลิมเปียกอส (แชมป์ซูเปอร์ลีก : 2012/13, แชมป์กรีซ คัพ : 2012/13) โมนาโก (แชมป์ลีก เอิง : 2016/17)

ความสำเร็จของโมนาโกเชียร์บอลในฤดูกาล 2016/17 ยังเป็นที่กล่าวขานถึงมาจนตอนนี้ ด้วยขุมกำลังพลังหนุ่มที่สร้างแรงกระเพื่อมไปทั้งแดนน้ำหอมและภาคพื้นยุโรป และหลังปรากฎการณ์ดังกล่าว ผู้เล่นชุดมหัศจรรย์เหล่านั้นต่างทยอยย้ายไปอยู่กับสโมสรที่ใหญ่กว่า ... ซัมเมอร์นี้ มันถึงเวลาหรือยังสำหรับกุนซืออย่าง เลโอนาร์โด้ ชาร์ดิม?

นายใหญ่ชาวโปรตุกีส เปรยไว้ว่า หากต้องอำลาโมนาโก ปลายทางต้องเป็นสโมสรที่ระดับใหญ่กว่า "โดยหลักการแล้ว ผมจะไม่เอ่ยถึงชื่อทีมใดเจาะจง ผมไม่จำเป็นต้องโฆษณาตัวเอง ผมไม่เคยอยู่กับทีมนานก่อนหน้านี้ เพราะผมต้องการผลักดันตัวเองให้อยู่ในระดับที่สูงกว่าเดิมเสมอ ความคิดแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนไป ผมจะย้ายไปอยู่กับทีมที่ใหญ่กว่าเท่านั้น"